แนวชีวิต
9/10 ครูครับเด็กห้องเรียนนี้มันเจ๋ง
ผู้กำกับหนัง Laurent Cantet
คงไม่ใช่เรื่องไม่จริงเสียทีเดียวว่าไม้เรียวสอนคนให้เป็นคนดี(แต่ก็มิได้หมายถึงว่าคนถูกลงโทษเป็นคนไม่ดี)หลังๆเกิดกรณีข่าวครูทำร้ายลูกศิษย์อยู่บ่อยๆหรือตีนักเรียนเกินกว่าเหตุ
จึงเกิดดราม่าในโลกออนไลน์ ซึ่งหลายคนเห็นว่าครูอาจมีเหตุผลของครูในเรื่องการลงโทษ(เป็นประเด็นเกินกว่าเหตุ)หรือเด็กคงทำผิดอะไรมาเลยถูกลงโทษ(แต่รุนแรงเกินไป)โดยความเห็นเช่นนี้ออกจะเกลื่อนไปซักหน่อแต่แทบไม่มีใครสงสัยเลยว่า
ก็ในเมื่อโรงเรียนเขาก็มีบทลงโทษนักเรียนทำผิด เช่น หัก ตัดคะแนน
ใบรายงานความประพฤติให้ผู้ปกครองทราบ ภาคทัณฑ์หรืออื่นๆ
แต่ทำไมเราไม่ยักเข้าข้างเด็กที่ถูกลงโทษต่อให้สมมุติว่าผิดจริงๆ
สังคมคงเคยชินกับการถูกฝาดก้นแล้วกอกใส่หูว่าเดี่ยวเธอก็จะกลายเป็นคนดีนะโอมเพี้ยง! มันก็อาจจะ!จริง
ถ้าถอยหลังตัวเองลงคูไปเกือกกลิ้งอยู่กับโคลนตมมีความสุขอยู่ในอดีตที่ถือกันมา
ถ้ามีโอกาสได้ดูหนัง The Class เรื่องนี้ แน่นอนเราอาจงง อาจมึน
อาจอึมครึมในอก
แต่เราจะสนุกถ้าได้ลองสงสัยและตั้งคำถามไปพร้อมกับตัวละครแล้วเราอาจลืมเรื่องทีเอาแต่เข้าข้างครูไปเลย
ฟรองซัวส์ มาแร็ง
ครูสอนวิชาภาษาฝรั่งเศสของโรงเรียนแห่งหนึ่ง
และยังเป็นครูประจำชั้นของนักเรียนที่ไม่ใช่เด็กห้องคิง
ที่ต้องพบกับความลำบากในการเคี้ยวเข็นเด็กที่มาจากร้อยพ่อพันธุ์แม่แถมยังแตกต่างด้านความคิดเชื้อชาติตลอดจนนิสัยใจคอให้พวกเขาเติบโตเป็นเด็กที่มีอนาคต
ก่อนเปิดภาคเรียน
มาแร็งและพวกครูคนอื่นๆเข้าร่วมประชุมพูดคุยวางแผนและเตรียมตัวไปกับการสอนจวบจนวันนั้นมาถึงไม่รอช้า
มาแร็งเริ่มแนะนำตัวให้นักเรียนรู้จักและสั่งให้พวกเขาแนะนำตัวเองกลับมา
การทักทายและการเรียนรู้สิ่งต่างภายในห้องเรียนของทั้งคู่เป็นไปอย่างราบรื่น
หลายต่อหลายวันในการเจียระไน มาแร็ง ต้องปวดหัวไปกับนักเรียนหลายคนทั้งแสบ กราง
เกเรแถมยังอวดดี ซึ่งทำให้บรรยากาศการถกเถียงภายในห้องร้อนระอุมากขึ้นในทุกๆวัน
หนังการันตีความสุดยอดด้วยรางวัลปาล์มทองคำที่อาจทำให้หลายๆคนร้องจ่า
แต่ผู้กำกับท่านนี้ค่อนข้างใจดีกับผู้ชมคือไม่ได้ทำหนังที่ตัดขาดผู้ชม(เกินไป)เหมือนกับหนังรางวัลของท่านอื่นๆที่ชอบปล่อยเกาะคนดูให้ต้องว่ายน้ำกลับฝั่งเอง
แต่เป็นประสบการณ์ของคนที่ได้เรียนทุกคนต่างรู้สึกถึงดี
หนังเล่าง่ายๆไปเนิบๆเรื่อยแต่สนุก
เวลาดราม่าแล้วมัน บทค่อยๆขมวดปมแล้วคลายขมวดปมแล้วคลายเหมือนกำลังนวดแป้งให้จับตัวเป็นก้อนก่อนลงกะทะโดยมีครูที่ต้องคอยรับมือเด็กโดยเฉพาะพวกเด็กแสบผสมโรงไปกับความขัดแย้งภายในสังคมโรงเรียนที่นัวเนียร์กันไปหมดไม่เว้นแม้ผู้ปกครองเด็ก
หนังฉายให้เห็นวิธีการรับมือความขัดแย้ง(มากกว่าต้องคอยหยิบสูตรสำเร็จเรื่องสามัคคีออกมาเวลาเกิดปัญหา)โดนมีครูมาแร็งทำหน้าประหนึ่งผู้ควบคุมกติกาและทำให้ความแตกต่าง
ทั้งด้านความคิด เชื้อชาติ นิสัย รสนิยม สิ่งที่ชอบหรือไม่ชอบให้อยู่ร่วมกันได้(มิใช่กติกาที่บังคับให้ต้องหัวเกรียนเหมือนๆกัน)ขณะเดียวกันหนังก็ชี้ให้ประเด็นที่ซ้อนทับเมื่อครูกลายมาเป็นผู้ขัดแย้งและตอนจบยิ่งสนุกด้วยเพราะหนังไม่ได้ให้คำตอบตายตัวแต่ปล่อยให้เราหาคำตอบเอาเอง
ตัวอย่างหนัง
จาก liquidbookstore