ตัวอย่างหนังควรดูก่อนน้ำท่วมโลก
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสิ่งนี้กำลังบังเกิดอยู่เบื้องหน้าเรา
บางคนอาจจะช๊อค บางคนอาจสิ้นหวัง หรือบางคนอาจรับสถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้
แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับคนดูหนัง หรือรักหนัง ก็เพราะพวกเขาเตรียมพร้อมมาก่อนล่วงหน้าแล้ว
ด้วยการดู ดูและก็ดู ก่อนที่โลกใบนี้จะทิ้งจอเหลี่ยมๆและความบันเทิงจากมันไป ฉะนั้นเราจะมาเริ่มต้นเตรียมพร้อมเหมือนกับคนดูหนัง
กันกลับ แนวหนังอะโพคาลิปส์(Apocalypses)กันก่อน
ขอเริ่มอุ่นเครื่องด้วยหนัง The
Perfect Storm(2000) มหาพายุคลั่งสะท้านโลกก่อน หนังแนวภัยพิบัติ ที่ทำให้รู้สึกถึงความน่ากลัวของพลังธรรมชาติ
กำกับโดย Wolfgang Petersen
เป็นเรื่องราวของเรือหาปลาลำหนึ่งที่บังเอิญมาเจอกับมหาพายุคลั่งที่สุด ด้วยความน่าดู
5/10 และหนังสร้างจากเรื่องจริงด้วย
2012(2009) วันสิ้นโลก หนังแนวภัยพิบัติ
ที่อิงคติความเชื่อเรื่องวันสิ้นสุดปฏิทินของเผ่ามายันมาเป็นแก่นเรื่อง กำกับโดย Roland
Emmerich เป็นเรื่องราวการเอาตัวรอดของครอบครัวแจ็คสันต่อภัยพิบัติต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น
ด้วยความน่าดู 6/10
อีกเรื่องหนึ่งคือ Deep
Impact(1998) วันสิ้นโลก ฟ้าถล่ม แผ่นดินทลาย หนังแนวภัยพิบัติ ที่ผูกเรื่องอุกกาบาตพุ่งชนโลกและทำให้ไม่รู้สึกสิ้นหวังกับมหาภัยพิบัติ
กำกับโดย Mimi Leder ด้วยความน่าดู 7/10
The Day After Tomorrow(2004) วิกฤติวันสิ้นโลก หนังแนวภัยพิบัติอีกเรื่องของผู้กำกับ โรแลนด์ เอมเมอริค
ผู้ที่หมกมุ่นกับจุดจบโลก หรือหนังแนววิทยาศาสตร์ เช่น ID4 (1996)สงครามวันดับโลก
ซึ่งเล่าถึงหายนะน้ำแข็งขั้วโลก หรือภาวะวิกฤติโลกร้อน ด้วยความน่าดู 7.5/10
และสุดท้ายคือเรื่องล่าสุด Age
Of Ice(2014) ยุคน้ำแข็งกลืนโลก กำกับโดย Emile Edwind Smith
หนังแนวภัยพิบัติ ที่พูดถึงสภาวะแปรปรวนรุนแรงจนทำให้อุณหภูมิโลกต่ำถึงขีดสุด
และทำให้เรารู้สึกถึงหายนะอันยิ่งใหญ่ของการลื่นล้ม ด้วยความน่าดู 2/10
คงจะเห็นภาพแนวนี้พอสมควรแล้วใช่ไหมว่าทำไม
คนดูหนังจึงเตรียมใจไปพอสมควรแล้ว แน่นอนว่าหนังแนวนี้อาจไม่ช่วยเรื่องความพร้อมอะไรมากมาย
ดังนั้นผู้เขียนจึงแนะนำทางเลือกที่ดีกว่าและพร้อมกว่านี้โดยการเสริมจากหนังแนวเอาตัวรอด (Surviver) กัน
ถ้าน้ำท่วมโลกเกิดขึ้นจริงๆ
แม้เราปฏิเสธการจมน้ำไม่ได้ แต่เราก็สามารถเรียนรู้การลอยน้ำอยู่นานได้ ฉะนั้นจะเริ่มด้วยเรื่อง
Open
Water(2003) ระทึกคลั่งทะเลเดือด กำกับโดย Chris Kentis ซึ่งสร้างจากชีวิตจริงของนักท่องเที่ยวที่มีรสนิยมการดำน้ำและชมปะการังที่ต้องลอยเคว้งคว้างกลางทะเลลึกและฉลาม
ด้วยความน่าดู 6/10
และสัตว์ร้ายที่ต้องเจอแน่อย่างฉลาม และถ้ามันอยู่เป็นฝูงละ
คงไม่ดีแน่หากคิดแค่จะลอยตัวอย่างเดียว ยิ่งต้องเจอฝูงฉลามหิวกระหายอย่างในหนังเรื่อง
Deep
Blue Sea(1999) ฝูงมฤตยูใต้มหาสมุทร กำกับโดย Renny Harlin ที่เล่าถึงศูนย์วิจัยลอยน้ำแห่งแอควาติก้า และการทดลอง ดัดแปลงสายพันธ์ฉลามใหม่จนสำเร็จ
แต่สุดท้ายก็ควบคุมพวกฉลามไม่อยู่ แม้จะไม่ถึงขนาดนั้น แต่การดูเรื่องนี้ก็ช่วยให้รู้สึกว่าสามารถรับมือได้
แม้ฝูงฉลามดัดแปลงก็สามารถเอาอยู่ได้ ด้วยความน่าดู 7/10
ฉะนั้นสิ่งที่ควรทำบ่อยและมีคือว่ายน้ำแข็งและเก่งกู้ภัยทางน้ำ
ดั่งเรื่อง The Guardian(2006) วีรบุรุษพันธุ์อึด
ฝ่าทะเลเดือด ของผู้กำกับ Andrew Davis ซึ่งเล่าเรื่องราวของครูฝึกกู้ภัยทางทะเลและนักเรียนในคลาสเรียนดังกล่าว
เพื่อให้พวกเขาก้าวข้ามความหยิ่งยโสไปสู่ลักษณะดีเด่นของนักกู้ภัยขั้นเทพ ด้วยความน่าดู
7.5/10
และถ้าโชคไม่ดีคงได้เห็นปลาวาฬคลั่งอย่างโมบี้ดิกส์ในเรื่อง
In
The Heart Of The Sea(2015) หัวใจเพขฌฆาตวาฬมหาสมุทร ของผู้กำกับ Ron
Howard ที่ถึงเหล่าลูกเรือล่าปลาวาฬลำหนึ่ง ที่ถูกโจมตีโดยปลาวาฬยักษ์จนเรือแตกและต้องสละเรือเพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้
ด้วยความน่าดู 8/10
เมื่อถึงวันนั้นแล้วคงไม่มีอะไรดีเท่ากับ
การมีคลีบตีนเหมือนกับพระเอกในหนังเรื่อง Water World(1995) ฝ่าโลกมหาสมุทร ของผู้กำกับ Kevin Reynolds
ที่เล่าเรื่องสถานการณ์น้ำท่วมโลกไปแล้ว และดินเป็นของหายากสำหรับโลกนั้น
ด้วยความน่าดู 8/10
และสุดท้าย ถ้าโชคดีสุดๆเอาตัวรอดจนกระทั่งน้ำลดแล้ว
เราจะกลายพันธ์เป็นเหมือนดั่งผู้คนใน Avatar(2009) อวตาร ตามจินตนาการของเจมส์
แคเมรอนไหมเนอะ น่าคิดเนอะสำหรับคนดูหนัง