แนววิทยาศาสตร์
7/10 บทสรุปและจุดเริ่มต้นของมหาภาพย์พิภพวานร
ผู้กำกับหนัง Franklin J. Schaffner
นี้คือบทสรุปและบทเริ่มต้นของหนังมหาภาพย์พิภพวานรเรื่องนี้
The Planet of The Apes(1968) เพราะมันคือจุดศูนย์กลางของรอบวงรัศมีโคจรเหมือนกับตัวเองคือดวงอาทิตย์ที่ทำให้ภาคต่างๆโผล่ขึ้นรอบรัศมีในลักษณะงูกินหาง
ความโด่งดังของนวนิยายเรื่องนี้ผ่านฝีพระหัตย์ของหนุ่มฝรั่งเศสนาม Pierre Boulle ต้นคิด
จนถูกนำไปสร้างในรูปแบบภาพยนตร์ทีวี การ์ตูนหลายภาค
แต่กระแสยังไม่หยุดอยู่แค่ศตวรรษที่ 20 ย่างเข้าศตวรรษที่ 21 มันถูกดัดแปลงและแต่งใหม่เพิ่มขึ้นอีก
ทั้งภาค2001(ไม่เชื่อมกับภาคไหนเลย)ภาค2011-2014(เชื่อมภาค1968แตกหน่อออกไปเป็นรากอีกชุด)และภาค2017 ซึ่งกำลังใกล้เข้ามา
โดยทุกภาคคือการหมุนรอบรัศมีอันเจิดจรัลของ The Planet of The Apes(1968) ทั้งขบขันและรักหยอก!
คือเรื่องราวของคณะสำรวจอวกาศ
นำโดยกัปตัน Taylor
หลังจากโลกมานาน18เดือน
พวกเขาคิดถึงบ้านที่ห่างออกไป 300ปีแสง ลอยเคว้งคว้างในอวกาศ
จนกระทั่งได้ลงจอดบนดาวแห่ง หนึ่ง และได้ทำการสำรวจเพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิต
จนกระทั่งไปมาเจอกับสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายกับพวกเขา
ไม่มีภาษาพูดตลอดถึงวัฒนธรรม
ขณะเดียวกันก็เจอสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาเช่นเดียวกับเขา แต่มันคือสัตว์ขนดก
หรือลิงนั้นเอง
น่าตลกเนอะ! นี้คือความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้
The Planet of The Apes(1968) สิ่งแรก
คือ พลิกกลับด้านความเข้าใจและความรู้สึกคนดู ในลักษณะหยิกแกมหยอก
โดยมีท้องเรื่องเป็นหนังแนววิทยาศาสตร์
ผูกเรื่องให้ชายคนหนึ่งหรือนักสำรวจอวกาศหลงเข้าไปท่ามกลางอารยธรรมและวัฒนธรรมเหมือนกับโยนชิ้นปลามันในวงฉลาม
ด้วยการทำให้มันดูตลกขบขัน
ผ่านคำถามของตัวละคร,การไต่สวนของศาลสูงสุด(ลิง)หรือข้อโต้แย้งทางธรณีวิทยาในการสำรวจทางปรัชญา,วิทยาศาสตร์และความจริง
ขณะเดียวก็พาเราไปชม
ความขบขันดังกล่าวที่กำลังถูกฝูงฉลามทึ้งออกไปทีละนิด
หรือไปดูอารยธรรมของตัวเราเอง
ที่กำลังก่อร่างสร้างตัวก่อนความศิวิไลย์กำลังมาเยือน
และสุดท้ายเป็นภาคที่ตัวงูโผล่ขึ้นมาจากลังและกำลังขดลำตัวให้บิดเหมือนกับยากันยุงชนิดจุดอย่างช้า
หรือเป็นภาคที่สามารถเชื่อมทุกภาคของมหาภาพย์พิภพวานร ยกเว้นภาค 2001 เท่านั้น
แหละนี้คือความดี