Pages

รีวิวหนัง The Class(2008)


แนวชีวิต

9/10 ครูครับเด็กห้องเรียนนี้มันเจ๋ง

ผู้กำกับหนัง Laurent Cantet


     คงไม่ใช่เรื่องไม่จริงเสียทีเดียวว่าไม้เรียวสอนคนให้เป็นคนดี(แต่ก็มิได้หมายถึงว่าคนถูกลงโทษเป็นคนไม่ดี)หลังๆเกิดกรณีข่าวครูทำร้ายลูกศิษย์อยู่บ่อยๆหรือตีนักเรียนเกินกว่าเหตุ จึงเกิดดราม่าในโลกออนไลน์ ซึ่งหลายคนเห็นว่าครูอาจมีเหตุผลของครูในเรื่องการลงโทษ(เป็นประเด็นเกินกว่าเหตุ)หรือเด็กคงทำผิดอะไรมาเลยถูกลงโทษ(แต่รุนแรงเกินไป)โดยความเห็นเช่นนี้ออกจะเกลื่อนไปซักหน่อแต่แทบไม่มีใครสงสัยเลยว่า ก็ในเมื่อโรงเรียนเขาก็มีบทลงโทษนักเรียนทำผิด เช่น หัก ตัดคะแนน ใบรายงานความประพฤติให้ผู้ปกครองทราบ ภาคทัณฑ์หรืออื่นๆ แต่ทำไมเราไม่ยักเข้าข้างเด็กที่ถูกลงโทษต่อให้สมมุติว่าผิดจริงๆ สังคมคงเคยชินกับการถูกฝาดก้นแล้วกอกใส่หูว่าเดี่ยวเธอก็จะกลายเป็นคนดีนะโอมเพี้ยง! มันก็อาจจะ!จริง ถ้าถอยหลังตัวเองลงคูไปเกือกกลิ้งอยู่กับโคลนตมมีความสุขอยู่ในอดีตที่ถือกันมา ถ้ามีโอกาสได้ดูหนัง The Class เรื่องนี้ แน่นอนเราอาจงง อาจมึน อาจอึมครึมในอก แต่เราจะสนุกถ้าได้ลองสงสัยและตั้งคำถามไปพร้อมกับตัวละครแล้วเราอาจลืมเรื่องทีเอาแต่เข้าข้างครูไปเลย

     ฟรองซัวส์ มาแร็ง ครูสอนวิชาภาษาฝรั่งเศสของโรงเรียนแห่งหนึ่ง และยังเป็นครูประจำชั้นของนักเรียนที่ไม่ใช่เด็กห้องคิง ที่ต้องพบกับความลำบากในการเคี้ยวเข็นเด็กที่มาจากร้อยพ่อพันธุ์แม่แถมยังแตกต่างด้านความคิดเชื้อชาติตลอดจนนิสัยใจคอให้พวกเขาเติบโตเป็นเด็กที่มีอนาคต ก่อนเปิดภาคเรียน มาแร็งและพวกครูคนอื่นๆเข้าร่วมประชุมพูดคุยวางแผนและเตรียมตัวไปกับการสอนจวบจนวันนั้นมาถึงไม่รอช้า มาแร็งเริ่มแนะนำตัวให้นักเรียนรู้จักและสั่งให้พวกเขาแนะนำตัวเองกลับมา การทักทายและการเรียนรู้สิ่งต่างภายในห้องเรียนของทั้งคู่เป็นไปอย่างราบรื่น หลายต่อหลายวันในการเจียระไน มาแร็ง ต้องปวดหัวไปกับนักเรียนหลายคนทั้งแสบ กราง เกเรแถมยังอวดดี ซึ่งทำให้บรรยากาศการถกเถียงภายในห้องร้อนระอุมากขึ้นในทุกๆวัน

     หนังการันตีความสุดยอดด้วยรางวัลปาล์มทองคำที่อาจทำให้หลายๆคนร้องจ่า แต่ผู้กำกับท่านนี้ค่อนข้างใจดีกับผู้ชมคือไม่ได้ทำหนังที่ตัดขาดผู้ชม(เกินไป)เหมือนกับหนังรางวัลของท่านอื่นๆที่ชอบปล่อยเกาะคนดูให้ต้องว่ายน้ำกลับฝั่งเอง แต่เป็นประสบการณ์ของคนที่ได้เรียนทุกคนต่างรู้สึกถึงดี

     หนังเล่าง่ายๆไปเนิบๆเรื่อยแต่สนุก เวลาดราม่าแล้วมัน บทค่อยๆขมวดปมแล้วคลายขมวดปมแล้วคลายเหมือนกำลังนวดแป้งให้จับตัวเป็นก้อนก่อนลงกะทะโดยมีครูที่ต้องคอยรับมือเด็กโดยเฉพาะพวกเด็กแสบผสมโรงไปกับความขัดแย้งภายในสังคมโรงเรียนที่นัวเนียร์กันไปหมดไม่เว้นแม้ผู้ปกครองเด็ก


     หนังฉายให้เห็นวิธีการรับมือความขัดแย้ง(มากกว่าต้องคอยหยิบสูตรสำเร็จเรื่องสามัคคีออกมาเวลาเกิดปัญหา)โดนมีครูมาแร็งทำหน้าประหนึ่งผู้ควบคุมกติกาและทำให้ความแตกต่าง ทั้งด้านความคิด เชื้อชาติ นิสัย รสนิยม สิ่งที่ชอบหรือไม่ชอบให้อยู่ร่วมกันได้(มิใช่กติกาที่บังคับให้ต้องหัวเกรียนเหมือนๆกัน)ขณะเดียวกันหนังก็ชี้ให้ประเด็นที่ซ้อนทับเมื่อครูกลายมาเป็นผู้ขัดแย้งและตอนจบยิ่งสนุกด้วยเพราะหนังไม่ได้ให้คำตอบตายตัวแต่ปล่อยให้เราหาคำตอบเอาเอง

ตัวอย่างหนัง

จาก liquidbookstore


Unknown